ยาแต้มสิว 8 ตัว ยุบไว ลดสิวทันใจ ไม่ทิ้งรอย
ยาแต้มสิว – สิวเป็นปัญหาผิวที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนเพราะการเกิดสิวนั้นมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นรูขุมขนอุดตัน การสะสมของสิ่งสกปรกบนใบหน้า และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งคงไม่มีใครอยากให้ใบหน้าสวยๆ ของตัวเองต้องเกิดสิวอย่างแน่นอน แต่หลายคนก็คงเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดก็คือการรักษาสิวอย่างถูกต้องเพื่อให้สิวยุบและหายไปโดยที่ไม่ทิ้งรอยดำ รอยแดงเอาไว้ให้กวนใจคุณนั่นเอง โดยวันนี้เราก็มียาแต้มสิว 8 ตัวที่จะช่วยให้สิวยุบไวและไม่ทิ้งรอยมาแนะนำกัน แต่ก่อนอื่นไปดูสาเหตุของการเกิดสิวกันก่อนดีกว่า
สิวเกิดจากอะไร
สาเหตุของการเกิดสิวที่มักเกิดกับกลุ่มวัยรุ่นส่วนใหญ่แล้วมีสาเหตุมาจาก ฮอร์โมน ส่วนสิวที่เกิดกับคนในวัยทำงานมักจะมีสาเหตุการเกิดมาจากการใช้เครื่องสำอาง และปัจจัยอื่นๆ มากมาย โดยสามารถแยกสาเหตุตามชนิดของสิวได้อีก ดังนี้
-
สิวอุดตัน
สิวอุดตันมักเกิดจากความผิดปกติของต่อมไขมันใต้ผิวหนัง เนื่องจากบริเวณทางเปิดของต่อมไขมันเกิดจากการอุดตันด้วยสาเหตุต่างๆ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ทางเปิดของต่อมไขมันอุดตันนั้นมักเกิดจาก เช่น สิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันในรูขุมขน การดูแลผิวหน้าผิดวิธี ทำให้อาจเกิดสิวที่คางซ้ำๆ เป็นต้น เมื่อต่อมไขมันอุดตันจะทำให้ไขมันที่ปกติสร้างต่อมไขมันไม่สามารถระบายออกมาทางท่อต่อมไขมันได้ จนก่อให้เกิดเป็นสิวอุดตันนั่นเอง
-
สิวอักเสบ
สิวอักเสบก็มักจะมีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรีย ที่อาศัยอยู่ในท่อต่อมไขมัน โดยจะมีการแบ่งตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเกิดการอุดตัน จนเกิดการอักเสบเป็นสิวหัวแดง หรือสิวหัวหนองในที่สุด
แต่ไม่ว่าสิวที่เกิดขึ้นนั้นจะเป็นสิวอุดตัน หรือสิวอักเสบ หรือแม้แต่สิวที่ยากต่อการรักษาก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะปัจจุบันมีการรักษาสิวมีความทันสมัยมากขึ้นซึ่งเป็นการรักษาด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัย ด้วยการยิงเลเซอร์ และการใช้ยาต่างๆ เป็นต้น
แนะนำยาแต้มสิว 8 แบรนด์ ใช้ดี สิวยุบไว ไม่ทิ้งรอย
สำหรับใครที่ต้องการรักษาสิวด้วยการใช้ยาแต้มสิวเราขอบอกก่อนเลยว่าการรักษาสิวด้วยการใช้ยาแต้มสิวนั้น คุณจะต้องเลือกยาแต้มสิวที่ดีที่สุดเท่านั้น เพื่อการรักษาสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งยาแต้มสิวที่เราอยากแนะนำให้คุณได้ลองใช้ก็มีดังนี้
-
Clinda M
ครีมแต้มสิวยี่ห้อนี้เป็นยี่ห้อแรกที่เราอยากแนะนำมากที่สุด เพราะเป็นครีมแต้มสิวที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากได้ผลลัพธ์ที่ดีจริงๆ โดยลักษณะของเนื้อครีมนั้นจะเป็นน้ำใสๆ มีคุณสมบัติที่โดดเด่นไม่เหมือนใครคือ มีตัวยาช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่หัวสิวได้เป็นอย่างดี ทำให้สิวแห้งไวและยุบเร็ว แถมยังเป็นยาแต้มสิวที่สามารถใช้ได้ทั้งสิวที่กำลังอักเสบ และสิวที่เป็นหนอง แต่มีข้อเสียอยู่นิดหนึ่งคือจะมีกลิ่นฉุนนั่นเอง
-
TOMEI
ครีมแต้มสิวตัวนี้เราอยากแนะนำให้ใช้กับสิวอักเสบและสิวหัวหนองเพราะใช้ได้ผลดีอย่างมาก แค่คุณใช้ครีมแต้มสิวยี่ห้อนี้แต้มบริเวณที่เป็นสิวแล้วทิ้งไว้แค่คืนเดียวสิวที่อยู่บนใบหน้าของคุณก็จะแห้งและหลุดออกมาทันที และที่สำคัญครีมแต้มสิวตัวนี้ยังช่วยให้สิวไม่ทิ้งรอยดำ รอยแดงอีกด้วย จึงหมดกังวลเรื่องปัญหารอยสิวไปได้เลย
-
Smooth E Acne Hydro Gel
ครีมแต้มสิวที่คุณสามารถหากซื้อได้ง่ายตามร้านขายยาทั่วไป หรือตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เป็นครีมแต้มสิวที่ถูกใจใครหลายคนเพราะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ โดยเนื้อครีมจะมีลักษณะเป็นเจลใส แค่นำมาทาทิ้งไว้แปปเดียวก็แห้งและซึมเข้าสู่ผิวทันที จึงสามารถช่วยขจัดแบคทีเรียได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว อีกทั้งยังเป็นครีมแต้มสิวที่เหมาะกับสิวอักเสบและสิวอุดตันอีกด้วย
-
Benzac AC
หากคุณกำลังมองหาครีมแต้มสิวที่สามารถใช้รักษาสิวได้กับทุกสิวอยู่ละก็เราอยากแนะนำให้คุณเลือกใช้ครีมแต้มสิวตัวนี้เลย เพราะเป็นครีมแต้มสิวที่เหมาะกับทุกสภาพผิวจริงๆ เนื่องจากลักษณะครีมจะมีความเข้มข้นสูงมาก จึงทำให้สามารถออกฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี และเห็นผลทันทีที่ใช้และที่สำคัญไม่ระคายเคืองผิวแน่นอนแม้จะเป็นผิวแพ้ง่ายก็ตาม
-
Fucidin
ครีมแต้มสิวที่เป็นยาฆ่าเชื้อที่มีกลิ่นค่อนข้างแรง จึงเหมาะกับการแต้มสิวเป็นอย่างมาก สำหรับครีมแต้มสิวตัวนี้บอกเลยว่าออกฤทธิ์แรงมาก จึงไม่อยากแนะนำให้ใช้กับสาวๆ ที่มีผิวแพ้ง่ายเพราะอาจเกิดอาการระคายเคืองผิวได้ แต่หากอยากลองใช้ก็ได้เพื่อแลกกับการรักษาสิวอักเสบให้หายไป เพราะครีมแต้มสิวตัวนี้สามารถรักษาสิวให้หายแบบเห็นผลทันทีได้จริงๆ
-
Retin-A
ต้องยอมรับเลยว่าครีมแต้มสิวยี่ห้อนี้เป็นครีมแต้มสิวที่ใช้ได้ผลดีจริงๆ เพราะสาวๆ หลายคนต่างก็ยืนยันว่าครีมแต้มสิวยี่ห้อนี้ใช้ได้ผลทันทีที่แต้มเสร็จ แต่มีข้อแม้คือคุณจะต้องใช้ครีมแต้มสิวยี่ห้อนี้ให้ถูกต้องเท่านั้น เพราะหากนำมาใช้ผิดวิธีอาจทำให้เกิดเป็นรอยไหม้ดำๆ ได้ แต่หากคุณนำมาใช้อย่างถูกวิธีก็จะสามารถรักษาสิวบนใบหน้าให้หายไปได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน โดยวิธีการทาครีมแต้มสิวยี่ห้อนี้ให้ถูกต้องนั้นก็คือนำมาใช้ทาในตอนกลางคืนก่อนนอนทุกวัน ซึ่งก่อนทาครีมแต้มสิวจะต้องล้างหน้าให้สะอาด และแต้มเฉพาะจุดเท่านั้น ซึ่งยาแต้มสิวตัวนี้จะช่วยเข้าไปกระตุ้นทำให้สิวหลุดออกมาและหายไปอย่างรวดเร็ว
-
Metronidazole robaz gel
ครีมแต้มสิวที่เหมาะกับการนำมารักษาสิวอักเสบ สิวหัวหนอง ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย เพราะครีมแต้มสิวตัวนี้จะเข้าไปฆ่าเชื้อทันทีที่ทาเสร็จทำให้สิวยุบอย่างรวดเร็วที่สำคัญยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดสิวซ้ำได้ด้วย ซึ่งใครที่มักจะเป็นสิวบ่อยๆ ก็ต้องลองใช้ครีมแต้มสิวตัวนี้กันเลย
-
Vincere Anti – Acne Cream
เป็นครีมแต้มสิวที่สามารถช่วยกำจัดสิวเสี้ยน สิวอักเสบ สิวหนองได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถช่วยลดอาการอักเสบของสิวได้อีกด้วย พร้อมทั้งช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แถมยังมีคุณสมบัติในการลดเลือนรอยแดง รอยดำที่เกิดจากสิวได้ ดังนั้นจึงเป็นครีมแต้มสิวอีกหนึ่งตัวที่คุณจะพลาดไม่ได้เลย
วิธีเลือกใช้ยาแต้มสิวให้เหมาะกับสภาพผิว
ครีมแต้มสิวมีหลายแบบหลายยี่ห้อ จะเลือกแบบไหนดีก็ต้องเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวของตนเองกันด้วย ซึ่งเราก็มีคำแนะนำในการเลือกมาฝากกันดังนี้
- ผิวแพ้ง่าย หรือผิวบอบบาง และคนที่เพิ่มเริ่มต้นใช้แนะนำให้คุณเริ่มจากการใช้ยาแต้มสิวที่มีฤทธิ์อ่อนๆ ก่อนที่ 2.5% เพื่อป้องกันการเกิดอาการแพ้นั่นเอง
- ผิวแห้งกร้าน แนะนำให้เลือกใช้ยาแต้มสิวที่มีส่วนผสมที่สกัดจากน้ำผึ้งธรรมชาติ หรือว่านหางจระเข้ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
- ผิวมัน ควรเลือกใช้ครีมแต้มสิวที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนและมอยเจอร์ไรเซอร์ โดยเลือกที่เป็นเนื้อบางเบา เพราะจะแห้งและซึมเข้าสู่ผิวเร็ว ทำให้ผิวไม่เกิดความมัน
วิธีรักษาสิวแบบอื่นๆ ควบคู่กับการใช้ยาแต้มสิว
การรักษาสิวที่นอกจากจะใช้วิธีรักษาด้วยการใช้ครีมแต้มสิวแล้ว เพื่อประสิทธิภาพในการรักษาสิวที่ดีและเห็นผลลัพธ์ที่ดีควรรักษาสิวด้วยวิธีอื่นๆ ควบคู่กันไปด้วยแต่จะมีวิธีไหนบ้างนั้นเรามาดูกันเลย
-
ลดความมันบนใบหน้า
สำหรับใครที่รู้ตัวว่าตัวเองหน้ามันบ่อยๆ ก่อนอื่นเลยคุณจะต้องควบคุมความมันบนใบหน้าก่อน ด้วยการล้างหน้าอย่างถูกวิธีโดยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ 7 สกินแคร์แบรนด์ไทยที่สามารถควบคุมความมันบนใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หลีกเลี่ยงการล้างหน้าบ่อยๆ เพราะการล้างหน้าบ่อยๆ จะทำให้หน้ามันมากขึ้น และเป็นสาเหตุของการเกิดสิวอีกด้วย หรือหากใครที่ยังไม่สามารถควบคุมความมันบนใบหน้าได้ด้วยวิธีดังกล่าวคุณสามารถควบคุมด้วยการปรึกษาแพทย์โดยอาจจะใช้ยาเพื่อควบคุมฮอร์โมนแอนโดรเจนนั่นเอง
-
ล้างหน้าให้ถูกวิธี
การล้างหน้าเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันการเกิดสิวได้เป็นอย่างดีแต่การล้างที่ถูกต้องนั้นคุณต้องไม่ลืมว่าควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิวและเหมาะกับสภาพผิวเท่านั้นโดยการล้างหน้าวันละ 2 ครั้งเช้าและเย็น แต่ในกรณีที่หน้ามันมากๆ ก็ไม่ควรเกิน 3 ครั้งต่อวันและเวลาล้างหน้าก็ต้องล้างให้สะอาด เมื่อล้างหน้าเสร็จแล้วให้ซับหน้าเบาๆ ด้วยผ้าขนหนูนุ่มๆ ห้ามเช็ดแรงๆ เด็ดขาด
-
ดื่มน้ำมาก ๆ
การดื่มน้ำอย่างเพียงพอจะช่วยทำให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และน้ำยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้สารพิษในร่างกายถูกขับออกมาได้ด้วย ดังนั้นการดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวันอย่างน้อยๆ วันละ 8-9 แก้วเป็นวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยรักษาสิวได้ดีทีเดียว และนอกจากการดื่มน้ำเปล่ามากๆ แล้วการทานผลไม้ที่ช่วยลดสิวและบำรุงผิวหน้าที่มีวิตามินซีและอีก็ช่วยเสริมสุขภาพผิวให้มีสุขภาพได้ด้วย ดังนั้นไม่อยากเป็นสิวต้องดื่มน้ำให้เพียงพอทุกวัน
-
รักษาก่อนบำรุง
ในระหว่างที่คุณกำลังทำการรักษาสิวอยู่นั้นคุณจะต้องหยุดบำรุงผิวด้วยการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงผิวก่อน โดยให้คุณเน้นไปที่การรักษาก่อนเมื่อรักษาสิวจนหายและกลับมามีผิวหน้าที่เรียบเนียนไร้สิวแล้วจึงค่อยบำรุงผิวเป็นขั้นตอนต่อไป เพราะหากคุณรักษาสิวไปด้วยบำรุงผิวไปด้วยจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้ง่าย ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อผิวของคุณมากขึ้นกว่าเดิม และที่สำคัญหากไม่อยากให้ผิวเกิดการอุดตันควรเลี่ยงการใช้ครีมที่มีเนื้อหนัก ๆ เพราะจะทำให้เกิดการอุดตันได้ง่าย แต่หากคุณเป็นคนที่มีผิวแห้งก็อาจจะบำรุงผิวบ้างระหว่างที่กำลังรักษาโดยเลือกบำรุงผิวด้วยเจลว่านหางจระเข้ที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์ เพื่อให้ผิวมีความนุ่มชุ่มชื้นนั่นเอง
-
หยุดซาวน่าและสตรีม
ในระหว่างที่คุณกำลังรักษาสิวอยู่นั้นคุณจะต้องหยุดการซาวน่าและสตรีมไปก่อน เพราะการซาวน่าและการสตรีมระหว่างรักษาสิวนั้นจะทำให้ผิวเกิดความร้อนและชื้นจนอาจทำให้สิวเห่อขึ้นมาได้ อีกทั้งยังทำให้รูขุมขนกว้างมากขึ้นซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่จะยิ่งทำให้สิวเกิดขึ้นมากกว่าเดิม และอาจส่งผลทำให้รักษายากขึ้นด้วย
5 พฤติกรรมต้องห้าม! ถ้าไม่อยากให้สิวขึ้น
หากคุณไม่อยากให้สิวขึ้นอีก ก็จะต้องหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้อย่างเด็ดขาด โดยมีพฤติกรรมต้องห้ามอะไรบ้างมาดูกันเลย
-
หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
การสูบบุหรี่จะทำให้ผิวไม่แข็งแรงพอที่จะฟื้นฟูตัวเองในยามที่ผิวสึกหรอ และยังทำให้ผิวไม่สามารถป้องกันแบคทีเรียได้ด้วย ดังนั้นหากไม่อยากเป็นสิวต้องเลิกสูบบุหรี่เด็ดขาด
-
หลีกเลี่ยงแสงแดด
แสงแดดคือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสิวได้ง่ายเพราะฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดนานๆ หรือหากจำเป็นต้องออกแดดก็ควรป้องกันตัวเองด้วยการทาครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพ และทาซ้ำบ่อยๆ ด้วย
-
ล้างหน้าให้ถูกวิธี
หลายคนมักคิดว่าแค่ล้างหน้าก็ไม่เกิดสิวแล้วแต่จริง ๆ ไม่ใช่การล้างที่จะช่วยให้ไม่เกิดสิวได้นั้นจะต้องล้างอย่างถูกวิธี ด้วยการเลือกใช้โฟมล้างหน้าที่เป็นสูตรอ่อนโยนและเหมาะกับสภาพผิวมากที่สุด
-
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม
สิ่งแรกที่ไม่ควรเลือกใช้คือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และน้ำหอม เพราะสารดังกล่าวจะทำให้ผิวเกิดอาการแพ้ง่าย ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิวด้วยเช่นกัน ดังนั้นการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด
-
ใช้อุปกรณ์แต่งหน้าที่ไม่สะอาด
อุปกรณ์แต่งหน้าที่ไม่สะอาดจะเป็นแหล่งสะสมเชื้อแบคทีเรียเมื่อนำมาใช้ก็จะส่งผลทำให้เกิดสิวได้ง่าย ดังนั้นอุปกรณ์แต่งหน้าที่คุณใช้จะต้องสะอาดตลอดเวลาและควรหมั่นทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้ก็ลดการเกิดสิวได้แล้ว และที่สำคัญหากแต่งหน้าก็อย่าลืมล้างหน้าให้สะอาดทุกครั้งด้วย หลังจากเสร็จธุระแล้ว
5 สูตรยาแต้มสิวจากสมุนไพรธรรมชาติ
นอกจากการใช้ยาแต้มสิวดังที่เราแนะนำไปข้างต้นแล้ว สูตรยาแต้มสิวจากสมุนไพรธรรมชาติก็ถือเป็นอีกหนึ่งสูตรที่น่าสนใจ เพราะจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นตัวการของสิวจากสารสกัดธรรมชาติพร้อมช่วยทำให้จุดด่างดำและรอยแดงจากสิวลดลงอย่างรวดเร็วซึ่งถ้าคุณสนใจสูตรยาแต้มสิวจากสมุนไพร ลองมาดู 5 สูตรเด็ดที่ใช้แล้วได้ผลลัพธ์ดีจริงดังต่อไปนี้
-
สูตรน้ำผึ้ง
น้ำผึ้งจะช่วยลดแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวได้เป็นอย่างดีจึงทำให้สิวลดการอักเสบและช่วยทำให้แผลจากสิวหายเร็วขึ้นเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับใบหน้าถ้าคุณบีบสิวเพียงแค่ใช้น้ำผึ้งผสมกับอบเชยป่นแห้งอย่างละ 1 ช้อนโต๊ะแล้วแต้มไปที่บริเวณเกิดสิวจะช่วยทำให้สิวหายเร็วมากขึ้น
-
สูตรขมิ้นชัน
ขมิ้นชันป่นผงผสมกับดินสอพองอย่างละ 1 ช้อนชาผสมน้ำเล็กน้อยคนผสมจนกลายเป็นเนื้อเดียวกันจากนั้นนำมาแต้มสิวอักเสบหรือสิวหนองแล้วทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีจากนั้นให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาดจะรู้สึกได้ถึงสิวที่ยุบลงอย่างรวดเร็วและสิวจางหายโดยมีรอยสิวเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้นและจางลงไปเรื่อยๆ
-
สูตรมะนาว
มะนาวเป็นตัวช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียชั้นดีพร้อมทำให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวเก่าแล้วเผยผิวใหม่ที่สดใสมากยิ่งขึ้นเพียงแค่ผสมน้ำมะนาวครึ่งลูกกับน้ำเปล่า 1 ช้อนชาจากนั้นนำมาแต้มที่บริเวณมีสิวอักเสบสิวหนองหรือสิวอุดตันประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดจะเห็นผลสิวยุบลงเร็วและช่วยทำให้บริเวณที่เป็นสิวไม่มีรอยสิวมากวนใจอีกด้วย
-
สูตรเปลือกมังคุด
เปลือกมังคุดจะออกฤทธิ์กำจัดสิวได้ดีดังนั้นเพียงแค่คุณนำเปลือกมังคุดมาบดแล้วคั้นเอาแต่น้ำนำมาผสมกับดินสอพองให้ข้น เติมน้ำอุ่นลงไปอีกเล็กน้อย จากนั้นแต้มไปที่สิวอักเสบและสิวอุดตัน ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกจะสัมผัสได้ถึงสิวที่ยุบลงอย่างรวดเร็วและทิ้งร่องรอยไว้เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น
-
สูตรมะละกอ
นำเนื้อมะละกอที่มีเอนไซม์ปาเปนกับเอนไซม์ไคโมปาเปนที่จะเป็นตัวช่วยในเรื่องการย่อยโปรตีนและลดการอักเสบของผิวมาทำการบดให้ละเอียดแล้วแต้มตรงจุดที่เป็นสิวอักเสบหรือสิวหนองจากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดสิวอักเสบจะยุบตัวลงเร็ว ไม่ทิ้งร่องรอยสิวไว้เมื่อยุบตัวลงและผิวกลับมาเนียนนุ่มเช่นเดิม
ข้อควรระวังในการใช้ยาแต้มสิว
เมื่อคุณเลือกใช้ยาแต้มสิวแล้วคุณควรใช้อย่างระมัดระวังโดยให้คุณทำตามข้อควรระวังในการใช้ยาแต้มสิวดังต่อไปนี้
- ยาแต้มสิวควรใช้ในปริมาณที่ตัวยากำหนดไว้ใช้แต้มเฉพาะจุดไม่ควรใช้ทั้งใบหน้าเพราะอาจจะทำให้ผิวส่วนอื่นมีปัญหาได้
- ยาแต้มสิวบางชนิดจะมีสารที่เป็นตัวช่วยผลัดเซลล์ผิวและเป็นตัวลดอาการอักเสบรวมไปถึงสารขจัดเชื้อแบคทีเรียจากสิวที่มีฤทธิ์ค่อนข้างรุนแรงดังนั้นจึงไม่ควรใช้อย่างต่อเนื่องเมื่อคุณซื้อยาแต้มสิวมาใช้ควรอ่านข้อควรระวังต่างๆของตัวยาให้ดีและเมื่อสิวยุบลงแล้ว ควรหยุดทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวรับสารมากเกินไป
- ช่วงที่ใช้ยาแต้มสิว ไม่ควรใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งเพราะอาจจะก่อให้เกิดปัญหา ตัวยารักษาสิวใช้ไม่ได้ผลและอาจจะก่อให้เกิดปัญหาสิวลุกลามได้มากกว่าเดิม
ถึงแม้ว่าสิวจะเป็นปัญหาผิวที่หลายคนหลีกเลี่ยงได้ยาก แต่หากทุกคนมีการดูแลสุขภาพผิวหน้าให้ดีอยู่เสมอ และดูแลผิวหน้าด้วยวิธีที่ถูกต้องปัญหาสิวต่างๆก็จะไม่เข้ามากวนใจคุณอย่างแน่นอน ดังนั้นอย่าลืมว่าการการดูแลสุขภาพผิวเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แต่เมื่อหลีกเลี่ยงที่จะไม่ให้เกิดสิวไม่ได้ก็ควรเลือกวิธีการรักษาให้ถูกต้องด้วยการเลือกใช้ครีมแต้มสิวที่ดีและมีคุณภาพ แต่การเลือกใช้ครีมแต้มสิวที่ดีและมีประสิทธิภาพนั้นคุณต้องเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวของคุณให้มากที่สุด
และข้อสำคัญในการใช้ครีมแต้มสิวนั้นจะต้องใช้อย่างถูกต้อง เพื่อประสิทธิภาพในการรักษาสิวและนอกจากการรักษาสิวสิวด้วยการทาครีมแต้มสิวที่ดีแล้วก็ควรหมั่นดูแลผิวให้ดีพร้อมกับการดูแลรักษาสิวด้วยวิธีอื่นๆ ควบคู่กันไปด้วยเพื่อให้สิวหายอย่างรวดเร็ว และไม่กลับมาเป็นสิวซ้ำอีกนั่นเอง